แม้ว่าจะมีเทคนิคมากมายให้เลือกสำหรับการทำ Skin Resurfacing แต่เทรนด์ที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างมากเลยก็คือ Microneedle RF และ Fractional RF ซึ่งแม้ว่าการรักษาทั้งสองแบบอาจดูคล้ายคลึงกันมาก แต่ในความเป็นจริงแล้วจะเป็นอย่างไร มาหาคำตอบกัน
สารบัญ
Skin Resurfacing คืออะไร ?
Skin Resurfacing คือ การผลัดผิว เป็นหนึ่งในหัตถการสำหรับการรักษาที่สร้างความเสียหายให้กับผิวหนังที่เราสามารถควบคุมได้ โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นจะไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการบำบัดหรือซ่อมแซมส่วนเหล่านั้นตามธรรมชาติ และฟื้นฟูปัญหาผิวที่มีอยู่ให้หลงเหลือน้อยที่สุด
ผลกระทบที่เกิดจาก Skin Resurfacing มีอะไรบ้าง ?
โดยทั่วไปแล้วการผลัดผิวจะกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยา 2 รูปแบบในผิวหนัง ดังนี้
ABLATION
Ablation คือ การส่งพลังงานความร้อนที่มากกว่า 100 °C ลงสู่ชั้นผิวอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิดการทำลายผิวหนังด้านบนและลอกออก ในขณะที่ความร้อนบางส่วนจะลงไปบริเวณผิวชั้นล่างเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ โดยกระบวนการซ่อมแซมจะใช้เวลาพอสมควร ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ในการรักษา ซึ่งหากเกิด Ablation มาก ระยะเวลาพักฟื้นจะใช้เวลามากตามไปด้วย เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือเกิด PIH (post inflammatory hyperpigmentation) ตามมาได้ ยกตัวอย่างเช่น การทำ CO2 LASERS และ PLASMA LASERS
COAGULATION
Coagulation คือ การเกิดการแข็งตัวของเลือดเป็นการสะสมพลังงานความร้อนสู่ผิวชั้นลึกเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้น ซึ่งมีเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยให้ผิวเกิด COAUGLATION ได้โดยไม่ทำลายผิวชั้นบน เช่น FRACTIONAL NON-ABLATIVE LASERS, RF และ HIFU
>> การจะเกิด ablation และ coagulation ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีที่เราใช้ โดยอาจเกิดทั้งสองปฏิกิริยา หรือเกิดเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง
Microneedle RF Resurfacing
Microneedle RF เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนามาจากการทำ Microneedling แบบดั้งเดิม ซึ่งจะไม่สร้างความเสียหายให้ผิวหนังชั้นบน โดยส่งพลังงานความร้อนผ่านปลายเข็ม เพื่อกระตุ้นให้ผิวเกิดกระบวนการ Coagulation โดยผิวชั้นบนจะไม่ได้ผลในการผลัดผิวเลยแม้แต่น้อย
Fractional RF Resurfacing
เป็นการทำงานผ่านเข็มขนาดเล็กที่สัมผัสบริเวณผิวหนังชั้นบน และส่งคลื่น RF เพื่อให้เกิดการสะสมพลังงานความร้อนเข้าสู่ชั้น Epidermis เพื่อให้เกิดปฏิกิริยา Ablation ที่ผิวชั้นบน เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และเกิด coagulation กระตุ้นให้เกิดการสมานแผล ซึ่งการทำงานร่วมกันของทั้งสองปฏิกิริยาทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ และได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานเมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ
==============================================================================
สรุป ! Microneedle RF ต่างจาก Fractional RF อย่างไร
จะเห็นได้ว่านวัตกรรมทั้ง 2 มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของหลักการทำงาน ผลลัพธ์ และระยะเวลาพักฟื้น โดย Microneedle RF จะเป็นการรักษาที่ให้ผลเฉพาะในผิวชั้นลึกเท่านั้น ซึ่งต่างจาก FRACTIONAL RF ที่สามารถฟื้นฟูผิวได้ทั้งชั้นบนและผิวชั้นลึกนั่นเอง
==============================================================================
ขอแนะนำ Rejuva FRM
นวัตกรรม RF ที่มาพร้อมทั้ง Fractional Mode และ Microneedle Mode สามารถเลือกใช้ได้ตามแต่ละบริบทเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด !
ทดลองเครื่อง ฟรี ! พิเศษ ผ่อนชำระ 0%
บริษัท Inno Aesthetics Laser ขอมอบสิทธิพิเศษให้สำหรับผู้ที่สนใจ Rejuva FRM
เครื่อง Fractional RF Microneedle ที่ควรมีติดคลินิก ! สามารถติดต่อเพื่อขอรับการสาธิตประสิทธิภาพเครื่อง ฟรี ! มาพร้อมผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยให้คำปรึกษาตลอดอายุการใช้งาน
Comments